SET NEW HIGH รอบ 15 ปี ดู FLOW เป็นหลัก

 

ปัจจัยสำคัญด้านบวก

- TFEX ต่างชาติ LONG มากผิดปกติ 3,483 สัญญา

- ราคาน้ำมัน อยุ่ HIGH 107 เหรียญ

ปัจจัยสำคัญด้านลบ

- ค่าเงินเริ่มอ่อนค่าที่ระดับ 30.40

- ราคาทองลงหนัก อาจจะเป็นสัญญาณเตือน


สรุป ทิศทางตลาดตอนนี้ขึ้นอยู่กับแรงซื้อต่างชาติเป็นสำคัญ ดังนั้น  อย่าเทรดเพลิน ตลาดรอบนี้ขึ้นมายาวนานยังไม่มีรอบปรับฐานต้องระวัง

หุ้นเด่นที่ยังไม่น่ากังวล
PTT , MAJOR

ลุ้นซิ่งๆหน่อยก็ต้อง PTT01CB 

SET เล่นในแดนบวกลุ้น NEW HIGH

วานนี้ SET ปรับตัวลงไป 8 จุด แล้วกลับมายืนบวกในช่วงท้าย ในขณะที่ภาพรวมต่างประเทศ ที่โดดเด่นจะเป็น ดาวน์โจน ที่ดัชนีใกล้ทะลุ 13,000 หากทะลุได้จะส่งผลทางจิตวิทยาเชิงบวก ต่อไทยเราด้วย โดยปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในช่วงนี้ คือ

- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของอเมริกาเริ่มทรงตัว สะท้อนว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้น

- การเพิ่มขนาดกองทุนยุโรป เพื่อแก้ปัญหาหนี้

- การปล่อยกู้ของ ECB แก่ธนาคารพาณิชย์ในยุโรป

ส่วนภาพรวม SET ตอนนี้ เริ่มแกว่งตัวแคบ ยังต้องลุ้นว่า ตลาดจะสามารถยืนเหนือ 1,148 ได้หรือไม่ โดยมีปัจจัยที่สำคัญคือ  

- ราคาน้ำมัน ทำ NEW HIGH ใหม่ 108 เหรียญ หนุนกลุ่มพลังงาน

- การประกาศจ่ายเงินปันผล ในหุ้นกลุ่ม BIG CAP และหุ้นขนาดกลางหลายตัว จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ การใช้ SBL มีน้อยในช่วงนี้

- เงินบาทแข็งค่ามาที่ระดับ 30.30 อย่างเร็ว ซึ่งเงินส่วนหนึ่งมาจากการเคลมประกันน้ำท่วม ไม่ได้ไหลเข้าตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ในการเล่นตามตลาดในรอบนี้ จะต้องระวังแรงขายเก็งกำไรเนื่องจากตลาดวิ่งขึ้นมารับข่าวดีหลายๆข่าว ไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งเกณฑ์ที่ต้องใช้คือ หาก SET หลุดค่าเฉลี่ย 5 วัน ต้องขายออกแล้วถือเงินสดทันที

กลยุทธ์คือ เลือกเล่นรายตัว  ที่วอลุ่มเข้า  และมีแนวโน้มที่ดี  P/E ยังไม่สูงมากนักได้แก่

PTT แนะนำซื้อ 358 – 360 บาท เป้าราคาระยะสั้น 370 บาท

MAJOR แนะนำซื้อ 15.70 – 15.90 เป้าราคาระยะสั้น 16.50 บาท

PS แนะนำซื้อ 13.90 – 14.00 บาท เป้าราคาระยะสั้น 15.00 บาท

SET ลุ้น NEW HIGH

ลุ้น SET วิ่งไป NEW HIGH ใหม่จากปัจจัยหนุนด้านบวก ได้แก่

- จีนลดสำรอง RRR 0.50% หนุนสภาพคล่องในระบบให้เพิ่มอีก 3.5 – 4 แสนล้านหยวน

- ราคาน้ำมัน ทำ NEW HIGH 105 เหรียญ หนุนกลุ่มพลังงาน

- การประกาศจ่ายเงินปันผล ในหุ้นกลุ่ม BIG CAP และหุ้นขนาดกลางหลายตัว จะเป็นแรงผลักดันให้กลุ่มที่ทำ SBL ต้องเข้าซื้อหุ้นกลับคืน

อย่างไรก็ตาม ในการเล่นตามตลาดในรอบนี้ จะต้องระวังแรงขายเก็งกำไรเนื่องจากตลาดวิ่งขึ้นมารับข่าวดีหลายๆข่าว ไว้ล่วงหน้าแล้ว

กลยุทธ์คือ เลือกเล่นรายตัว  ที่วอลุ่มเข้า  และมีแนวโน้มที่ดี  P/E ยังไม่สูงมากนักได้แก่

BCP แนะนำซื้อ 23.00 – 23.40 เป้าราคา ระยะสั้น 24 บาท

KTB แนะนำซื้อ 17.20 – 17.40 เป้าราคา ระยะสั้น 19 บาท

SET ปรับกลยุทธ์เล่นกรอบใหม่

 

 

วานนี้ SET  ยังแกว่งตัวและไม่ทะลุกรอบ  แล้วปรับตัวลงในช่วงบ่าย มาอยู่ที่ระดับ 1,120 จุด ส่วนตลาดต่างประเทศในยุโรป ปรับตัวดีขึ้น ดาวน์โจนทำ NEW HIGH จากปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญที่ทำให้ หุ้นไทยเรามีโอกาสทะลุกรอบ ขึ้นไปเล่นกรอบใหม่ที่ระดับ 1,120 – 1,150 จุด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเริ่มระวัง การ short ปิด tfex ของต่างชาติที่เริ่มปิดไปอีก 500 สัญญา และค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่า อาจจะทำให้ FLOW ไหลออกไปเก็งกำไรค่าเงิน

กลยุทธ์คือจากเดินที่เล่นทางลง ต้องปรับเปลี่ยนเกม เป็นเน้นหุ้นรายตัว ที่มีแนวโน้มที่ดี  และเล่นประเด็นการจ่ายเงินปันผล

TISCO แนะนำซื้อ 36.50 – 37.50 เป้าราคา ระยะสั้น 39 บาท

ปรับกลยุทธ์ใหม่ ตลาดกลับตัวปิด short tfex ไปก่อนครับ

SET มีพักฐานแกว่งตัวในกรอบ

 

 

วานนี้ SET  ยังแกว่งตัวขึ้นในช่วงเช้า แล้วปรับตัวลงแรงในช่วงบ่าย จากเหตุการณ์ระเบิดที่สุขุมวิท แต่ FLOW เป็นฝ่ายซื้อสุทธิหุ้นไทย ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศยังทรงๆตัว ปัจจัยที่สำคัญคือ

- เจรจาเงินกู้กรีซถูกเลื่อนออกไปอีก

- การปรับลดอันดับเครดิต

ในระยะสั้น ยังมองปัจจัยของตลาดตอนนี้ ต้องระวังการปรับฐาน 10-20 จุด เป็นสำคัญ และแกว่งตัวในกรอบ 1,085 – 1120 จุด โดยปัจจัยข่าวร้ายเรื่องการวางระเบิด อาจจะไม่มีผลมากนัก และปัจจัยสำคัญในไทย จะยังวนอยู่ในเรื่องของการประกาศผลการดำเนินงานและการจ่ายเงินปันผล

-ต่างชาติ  LONG TFEX เพิ่มเข้ามาอีก 477 สัญญา

-ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าต่อ

-ราคาน้ำมัน ยังเล่นในกรอบที่ระดับราคา 100 เหรียญ

กลุ่มธนาคาร ประเด็นเรื่องการเก็บเงินเข้ากองทุนฟื้นฟู มีความกังวลลดน้อยลงเนื่องจาก มีการจัดเก็บเงินน้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้

ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ที่ขึ้นนำมาก่อน จะเป็น KBANK SCB BBL ส่วน KTB ถือว่า ช้ากว่าตัวอื่น ประมาณ 20% จึงแนะนำซื้อ โดยมีเป้าหมายที่ราคา 20 บาท

กลุ่มพลังงาน แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว จากปัจจัยที่หุ้นในกลุ่มนี้เริ่มทยอยออกผลการดำเนินงานรายปี ที่มีการเติบโต และมีการทยอยประกาศจ่ายเงินปันผล

กลยุทธ์คือเลือกเล่นหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กรายตัว ส่วนตัวใหญ่ ใครพร้อมจะซื้อรอจังหวะ ใครชอบเล่นทางลงทยอยใช้ SBL  short tfex DW PUT ครับ

กลยุทธ์ตอนนี้ เริ่มใช้เครื่องมือ TFEX มา SHORT ได้แล้วนะครับ

ยังต้องระวังการปรับฐาน

 

วานนี้ SET  ยังแกว่งตัวในกรอบช่วง 1,113 – 1,120 จุด โดยตลาดปรับฐานเพียงช่วงสั้นๆ จากบวกน้อยเป็นบวกเยอะ หุ้น BIG CAP หลายๆตัว ยังมีกระแสเข้าซื้อขายหนาแน่น แสดงให้เห็นถึงความคึกคักของตลาด และไม่สนปัจจัยภายนอกซึ่ง

ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญคือ

- เงินยูโรแข็งค่า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่กลับเข้าสู่ยูโร

- ข่าวการประท้วงของกรีซสร้างความกังวลบ้าง

ปัจจัยของตลาดตอนนี้ ต้องระวังการปรับฐานระยะสั้น 10-20 จุด เป็นสำคัญ โดยพิจารณาจากยอดการซื้อขายของต่างชาติ ที่เมื่อวานนี้ขายออกมาเป็นวันแรก

-ต่างชาติ  LONG TFEX น้อยและเริ่มมีการ SHORT ปิดบางส่วน

-ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าต่อ เป็น 30.80 บาท จาก 30.76 

-ราคาน้ำมัน ยังเล่นในกรอบที่ระดับราคา 100 เหรียญ

กลุ่มธนาคาร ประเด็นเรื่องการเก็บเงินเข้ากองทุนฟื้นฟู มีความกังวลลดน้อยลงเนื่องจาก มีการจัดเก็บเงินน้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้

ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ที่ขึ้นนำมาก่อน จะเป็น KBANK SCB BBL ส่วน KTB ถือว่า ช้ากว่าตัวอื่น ประมาณ 20% จึงแนะนำซื้อ โดยมีเป้าหมายที่ราคา 20 บาท

กลุ่มพลังงาน แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว จากปัจจัยที่หุ้นในกลุ่มนี้เริ่มทยอยออกผลการดำเนินงานรายปี ที่มีการเติบโต และมีการทยอยประกาศจ่ายเงินปันผล

กลยุทธ์อื่นๆยังคงเดิมคือ ทยอยขายกำไรเล่นรอบ และเตรียมเล่นทางลงเพื่อรองรับการปรับฐานของ SET โดยเครื่องมือที่จะใช้

ได้แก่ short TFEX , SBL , DW PUT

SET ยังไม่ทำ NEW HIGH

วานนี้ SET สวิงตัวในช่วง 1,120 + / - สลับไปมา สวิงทั้งวัน  โดยดัชนียังไม่มีการทำ NEW HIGH และปัจจัยข่าวดีที่ออกมามากแล้ว  และยังเป็นเรื่องเดิม คือ กระแสเงินจากต่างชาติเข้าเป็นหลัก ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญคือ

- มองกันว่าตลาดหุ้นเริ่มไม่สนใจเรื่องกรีซแล้ว

- FED คงดอกเบี้ยในระดับต่ำ กระตุ้นให้เงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น มากขึ้น

- มาตรการ ECB อาจจะมีเรื่องการเพิ่มสภาพคล่อง

ปัจจัยของตลาดตอนนี้ ต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นสำคัญ โดยพิจารณาจากยอดการซื้อขายของต่างชาติ ที่ลดลง และ พอร์ตโบรคเกอร์ซื้อไปมาก คือ

-ต่างชาติ  LONG TFEX น้อยส่วนกองทุน short ออกมามากถึง 1,510 สัญญา

-ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย จาก 30.72 เป็น 30.76 

-ราคาน้ำมัน ยังเล่นในกรอบที่ระดับราคา 99 เหรียญ

กลยุทธ์ยังคงเดิมคือ ในหุ้นกลุ่ม BIG CAP แนะนำทยอยขายกำไรเล่นรอบ และเตรียมเล่นทางลงเพื่อรองรับการปรับฐานของ SET โดยเครื่องมือที่จะใช้

ได้แก่ short TFEX , SBL , DW PUT

SET ถึงเป้าหมายแล้วพักก่อน

 

  

วานนี้ SET ปรับขึ้นถึงเป้าหมายอย่างรวดเร็ว โดยจุดสูงสุด 1,121 จุด  โดยมีมุมมองว่า เมื่อวานตลาดปรับขึ้นมาเร็วและแรงเกินคาด โดยหุ้น BIGCAP กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เป็นกลุ่มนำ ราคาทำ NEW HIGH ในรอบนี้ และปัจจัยหลักที่สำคัญในเวลานี้ จะยังเป็นเรื่องเดิม คือ กระแสเงินจากต่างชาติเข้าเป็นหลัก ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญคือ

- FED คงดอกเบี้ยในระดับต่ำ กระตุ้นให้เงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น มากขึ้น

- มาตรการ ECB อาจจะมีเรื่องการเพิ่มสภาพคล่อง

- การประชุมแก้หนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้า

และปัยจัยเด่นที่สำคัญ คือ

-ต่างชาติ  short TFEX ออกมาบางส่วน

-ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง จากที่อ่อนค่าไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ โดยหลุดกรอบแนวรับที่สำคัญลงมา แสดงให้เห็นว่าเงินยังไหลเข้า

-ราคาน้ำมัน ยังเล่นในกรอบที่ระดับราคา 99 เหรียญ

กลยุทธ์ BIG CAP แนะนำทยอยขายกำไรเล่นรอบ และเตรียมเล่นทางลงเพื่อรองรับการปรับฐานของ SET โดยเครื่องมือที่จะใช้

ได้แก่ short TFEX , SBL , DW PUT

SET ทดสอบ HIGH อีกครั้ง

วานนี้ SET ลงไปทดสอบจุดต่ำที่ระดับ 1,094 จุด อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วกลับมาปิดเหนือ 1,100 จุดอีกครั้ง วอลุ่มตลาดมากถึง 30,000 ล้านบาท โดยมีมุมมองว่า เมื่อวานตลาดใช้เวลาในการปรับฐานระยะสั้นมากเกินคาด และปรับลดลงเพียงเล็กน้อย ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามา หุ้น BIGCAP กลุ่มปิโตรเคมี ราคาทำ NEW HIGH ในรอบ ซึ่งปัจจัยหลักในเวลานี้ จะเป็นเรื่อง กระแสเงินจากต่างชาติเข้าเป็นหลัก ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญคือ

- FED คงดอกเบี้ยในระดับต่ำ กระตุ้นให้เงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น มากขึ้น

- ประชุมแก้หนี้กรีซเลื่อนอีก โดยมองว่าปัจจัยนี้ไม่มีผลต่อตลาดมากนัก

และปัยจัยเด่นที่สำคัญ คือ

-ต่างชาติ  LONG TFEX เพิ่มขึ้นอีก สถานะจากที่นับสะสมได้ มีประมาณ 9 พันสัญญาณ ดังนั้น ตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จนจบไตรมาส1.2555 ด้วยแรงซื้อของต่างชาติ

-ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง จากที่อ่อนค่าไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ

-ราคาน้ำมัน กลับเข้ามาในกรอบอยู่ระดับราคา 99 เหรียญอีกครั้ง มีข่าวสนับสนุนในเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่านและการปิดโรงงานแปรรูปทรายน้ำมัน

กลยุทธ์ BIG CAP แนะนำซื้อเก็งกำไร โดยกลุ่มหลักคือกลุ่มพลังงานที่งบยังไม่ออก

SET มีความเสี่ยงในการปรับฐาน

 

 

 

วานนี้ SET เปิดที่ระดับ 1,105 จุด ทะลุจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน และยืนอยู่ได้ระยะหนึ่ง ก่อนจะถูกเทขายมาในช่วงท้ายตลาด และกลายเป็นแท่งแดงขนาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นว่าโอกาสที่ตลาดจะปรับฐานมีสูงขึ้น ภายใต้บรรยากาศจากต่างประเทศที่ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องกรีซ ซึ่งมองว่าถ้าตลาดยังไม่มีเรื่องร้ายๆใหม่ๆเข้ามานอกจากเรื่องนี้ ก็ถือว่ายังไม่มีอะไรน่ากังวล และเป็นเพียงการปรับฐานจากที่ขึ้นติดต่อกันมาหลายสิบวันในทางเทคนิคธรรมดาๆเท่านั้น

และปัยจัยเด่นที่สำคัญ คือ

-ต่างชาติ short  TFEX ปิด LONG ออกมาบางส่วน

-ระวังการเก็งกำไรกับค่าเงินบาท โดยที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จนกระทั่งมาแตะเส้นแนวโน้มแล้วเริ่มเด้งกลับ ทำให้แนวโน้มเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า กลับไปที่ 32 บาท

-ราคาน้ำมัน ยังคงอยู่ในกรอบ 97 เหรียญ เป็นมุมมองที่น่ากังวลต่อกลุ่มพลังงาน แต่กลุ่มพลังงานมีเรื่องของผลประกอบการ และ การจ่ายเงินปันผลเป็นปัจจัยบวกดันราคา

กลยุทธ์ BIG CAP โดยส่วนใหญ่พักฐานไปก่อน และต้องระวังแรงเทขายทำกำไร และเลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว

LOXLEY แนะนำซื้อ 3.78 บาท เป้า 4 บาท stop loss 3.70 เล่นประเด็นเก็งกำไรงบ ลุ้นหวย ลุ้นรับงานโครงข่าย 3G

AJ ที่เคยแนะนำซื้อไป ยังเล่นต่อ รอจนงบออก

SET NEW HIGH รอบ 5 เดือน

 

 

SET ที่ระดับ 1,102 จุด จะเป็นจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน และเมื่อผ่านบริเวณนี้ได้ จะเป็นการเล่นปิด GAP ทางเทคนิค โดยได้บรรยากาศจากต่างประเทศเป็นปัจจัยหนุน

ภาพรวมตลาดต่างประเทศ ปิดบวกเกิน 1%  จากปัจจัยที่สำคัญคือ

-ตัวเลขการจ้างงานของอเมริกาที่ออกมาดี

-การเจรจาหนี้กรีซโดยตัวเลข HAIR-CUT หนี้อยู่ระหว่าง 50-70%

และปัยจัยเด่นที่สำคัญ คือ

-ต่างชาติ long TFEX ต่อเนื่อง

-ราคาน้ำมัน ยังคงอยู่ในกรอบ 97-98 เหรียญ เป็นมุมมองที่น่ากังวลต่อกลุ่มพลังงาน แต่กลุ่มพลังงานมีเรื่องของผลประกอบการ และ การจ่ายเงินปันผลเป็นปัจจัยบวกดันราคา

-ธปท.ปรับเป้า GDP เป็น 4.9% เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

กลยุทธ์รอขายเมื่อดัชนีเข้าใกล้ 1,122 จุด และเตรียมใช้กลยุทธ์เล่นทางลงในจังหวะต่อไป

SET เริ่มเข้าสู่กรอบที่ 2

 

 

ภาพรวมตลาดต่างประเทศ ทรงตัวจากที่วันก่อนหน้าบวกแรง ปัจจัยที่สำคัญคือ

-ตัวเลขภาคการผลิตทั่วโลกที่ออกมาดีที่สุดในรอบ 4 เดือน

-การเจรจาหนี้กรีซคาดว่าจะจบเร็ว

-หลายประเทศในยุโรปประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตรระดมทุน

-จีนอาจจะพิจารณาใส่เงินเพิ่มทุนในกองทุนรักษาเสถียรภาพของยุโรป

สำหรับ SET ภาพรวมตลาดยังเป็น up trend ต่อเนื่อง และเข้าสู่กรอบที่ 2 ซึ่งเร็วกว่าที่คาด โดยมีปัจจัยสำคัญคือลุ้นผลประกอบการของบริษัท ที่จะเริ่มทยอยออกในช่วงสัปดาห์หน้า

และปัยจัยเด่นที่สำคัญส่ง้ายสัปดาห์ คือ

-ต่างชาติ long TFEX ต่อเนื่อง

-ราคาน้ำมัน ปรับตัวลงมาช่วง 96.50 เหรียญ และมาเล่นกรอบล่าง น่าเป็นห่วงว่า ไม่สามารถมายืนที่ระดับ 100 เหรียญได้ เป็นมุมมองที่น่ากังวลต่อกลุ่มพลังงาน 

 

กลยุทธ์หุ้นรายตัว จะยังไม่เน้นการซื้อเพิ่ม โดยถือรอผลประกอบการออก หุ้นที่สำคัญคือ PTT TOP BCP และลุ้นเงินปันผล TISCO

SET เล่นยืนในกรอบอย่างมั่นคง

ภาพรวมตลาดต่างประเทศ ปรับตัวขึ้นแรง จากปัจจัย

-ตัวเลขภาคการผลิตทั่วโลกที่ออกมาดีที่สุดในรอบ 4 เดือน

-การเจรจาหนี้กรีซคาดว่าจะจบเร็ว

แม้ว่าระยะหลังต่างประเทศจะไม่มีผลต่อดัชนีไทยเรามากนัก แต่ภาวะที่ปรับตัวขึ้นแรงทำให้บรรยากาศโดยรวมสดใสเป็นปัจจัยสนับสนุน

สำหรับปัจจัยในประเทศ กรอบที่จะเล่น TARGET1 = 1,070 – 1,090 จุด ยังคงเลือกเล่นเป็นรายตัว โดยมีปัจจัยสำคัญคือลุ้นผลประกอบการของบริษัท

โดยผลประกอบการที่สำคัญของตลาดจะอยู่ที่กลุ่มพลังงาน ซึ่งมีผลต่อดัชนีและบรรยากาศของ SET มาก โดย SET ถึงเป้าหมายแรกแล้ว และคาดว่าจะเล่นในกรอบ TARGET 1 ก่อน ส่วนจะเข้าไปในกรอบ TARGET 2 ได้หรือไม่นั้นต้องติดตาม

-ต่างชาติกลับมา long TFEX กลับ 700 สัญญา คลายกังวลที่จะโดนต่างชาติเทขาย

-ราคาน้ำมัน ที่น่าเป็นห่วงว่า ไม่สามารถมายืนที่ระดับ 100 เหรียญได้ เป็นมุมมองที่น่ากังวลต่อกลุ่มพลังงาน

-การเก็บเงินใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการต่อรองกันอยู่ เป็นมุมมองที่น่ากังวลต่อกลุ่มธนาคาร

          กลยุทธ์คือ ซื้อลุ้นตลาดขึ้นต่อ ครับ

กลยุทธ์หุ้นรายตัว

PTT  ทยอยซื้อที่ราคา  340-343 บาท ลุ้นผลประกอบการ และ การจ่ายเงินปันผล

กลุ่มโรงกลั่นยังคงเล่นปัจจัยเดิม

คาดการณ์กลุ่มโรงกลั่นจะมีผลการดำเนินงานที่ออกมาโดดเด่น ลุ้นปันผล 4-5%

TOP ซื้อสะสม บริเวณแนวรับ 62.50 – 63.75 บาท

BCP ซื้อสะสม  บริเวณแนวรับ 20.00 – 20.40 บาท

LOXLEY ได้ลุ้นการพลิกฟื้นในปี 2012 และได้งานติดตั้งโครงข่าย 3G

กรอบราคารับ 3.66 – 3.70 บาท เป้า 3.90 บาท

AJ ลุ้นผลประกอบการ และ P/E อยู่ระดับต่ำเพียง 4.8 เท่า

กรอบราคารับ 16.30 เป้า 18 บาท

TISCO ลุ้นเงินปันผลสูง

กรอบราคารับ 35.50 – 36.50 บาท เป้า 40 บาท