วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

Stock Watch list

ตอนนี้ ผมอาจจะไม่มีเวลาในการ update ข้อมูลมากนัก จึงขอลงหุ้นที่น่าสนใจ ที่ติดตามและเล่นกับมันอยู่คือ
BCP TIPCO ROJNA  MAJOR TISCO เพิ่ม BLA  THRE INTUCH


วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

SET ยังมีโอกาสไปต่อได้ ในเมื่อยืนระดับ 1,174 ได้อย่างมั่นคง

ดาวโจน และ ยุโรป เคลื่อนไหวแดนลบ โดยที่ แนวโน้มของดาวโจนที่อยู่ระดับ 13,000 จุดนั้น ถือว่าเป็นระดับที่ยังไม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น เป็นสำคัญ แต่ฝั่งยุโรป ยังต้องติดตามความเคลื่อนไหว ดัชนีตลาดหุ้นของสเปน และ อิตาลี ที่ยังปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง โดยลบหนักมากถึง 2-3% ส่วนดัชนีผู้นำยุโรปอย่าง เยอรมัน ลบไม่มากนัก ซึ่งในช่วงปีก่อนรอบที่ดัชนี Panic กันทั่วโลก ก็มีลักษณะแบบนี้คือ ทางยุโรปลงหนักๆติดกันหลายวันก่อน แล้วเราก็ลงตามไปทีหลัง (ช่วงดัชนีไทยหลุดพันจุด)

ปัจจัยที่น่าติดตาม เกี่ยวกับ หนี้สาธารณะของสเปน และ อิตาลี ที่อาจจะมีปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง


ส่วนภาพของ ตลาดหุ้นทางเอเชีย ยังอยู่ในแนวโน้ม ทางขึ้น ดังภาพ


ดังนั้น ในเบื้องต้นต้องติดตามว่า การปรับตัวลดลงของหุ้นทางฝั่งยุโรป (โดยเฉพาะจาก อิตาลี และ สเปน) จะส่งผลต่อทางเอเชียมากน้อยเพียงใด (ระดับการ Panic) หากประเทศใด ดัชนีปรับตัวลดลงหลุดกรอบแนวโน้มที่วางไว้ เพื่อความปลอดภัย เราจะต้องลดพอร์ตการลงทุนลงมาด้วย





สำหรับ ภาพ SETรอบนี้ ดัชนีลดลงจากจุด NEW HIGH 60 จุดแล้วกลับตัวขึ้นเหนือ เส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 1,174 เป็นระดับของเส้นแนวรับของขาขึ้นรอบที่ผ่านมา และขึ้นมาด้วยแรงซื้อที่หนาแน่นในหุ้น BIG CAP ที่สำคัญ โดยมีปัจจัยต่างๆ คือ



ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา ซึ่งการเข้ามาของเงินต่างชาติรอบนี้เริ่มจาก Long TFEX ก่อน แล้วตามด้วยการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะทำกำไร TFEX ออกไปหมดแล้ว แต่ทว่าเงินที่จมอยู่ 8 หมื่นกว่าล้านก้อนนี้ ไม่น่าที่จะออกได้ง่ายและเร็ว จึงมองว่ามีโอกาสที่ต่างชาติจะต้องลากราคาหุ้นต่อได้อีก
- การปลดล๊อค นำเข้าไก่ ของกลุ่ม อียู และ ญี่ปุ่น หนุนกลุ่มส่งออกใน Q2.55 และ เป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า
- เงินบาท SIDE WAY ที่ระดับ 30.80  ยังไม่สามารถทะลุกรอบ 31.00 บาท ออกไปได้ แสดงว่า เงินต่างชาติยังไม่ออกไปไหน
- กลุ่ม BANK เข้าช่วงประกาศงบ Q1.55 ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีมาก จาก Consensus ที่คาดการเติบโตของปีนี้ไ้ว้สำหรับกลุ่ม BANK 20% นำร่องโดย KBANK ประกาศงบเร็วกว่าที่คาด ไปแล้วเมื่อเย็นวาน เติบโต 47%โดย เฉพาะในเดือน เมษายน ต่างชาติ เข้าซื้อหุ้น KBANK มากที่สุดในกลุ่มธนาคาร ประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท หรือจำนวน 14 ล้านหุ้น
- ราคาน้ำมัน กลับมายืนแถวบริเวณ 103 เหรียญ แต่หากราคาหลุดบริเวณนี้ แล้วลงไปต่ำกว่า 100 เหรียญ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป ซึ่งจากปัจจัยอิหร่าน ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาเล่นขาขึ้นได้ หากราคายืนเหนือ 103 เหรียญ

ปัจจัยด้านลบ
- ในช่วงนี้เหมือนจะหาไม่เจอ เพราะเงินไหลเข้า ข่าวดีท่วมตลาด ดังนั้น ปัจจัยลบต้องติดตามดัชนีทางยุโรปในประเทศ สเปน และ อิตาลี ที่ปรับตัวลงหนักติดต่อกันหลายวัน ว่าจะทำให้เกิด Panic Sell หรือไม่


สรุป จาก การวางกลยุทธ์ SET หาก SET กลับไปยืนบริเวณ 1,170 ได้ ก็ต้องเล่น SET ทางขึ้น โดยหุ้น BIG CAP ที่น่าสนใจ สำหรับรอบสั้นๆ นี้คือ DTAC KTB 
หุ้นเล็กรองลงมา JAS

ส่วน TFEX เล่น Long เป็นหลัก ช่วงราคา 825 - 830 จุด

ขาซิ่ง เลือกลูก C DTAC KTB หาจังหวะเล่นได้


สำหรับหุ้นลงทุนที่ยังสนใจ  TISCO TIPCO BCP ROJNA 
แต่บางตัวขึ้นมามากแล้ว อาจจะเลือกทางทยอยขายแล้วรอรับใหม่ คือ MAJOR  

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

SET สวิงออกข้าง ลุ้นผลประกอบการรายตัว

ดาวน์โจน และ ยุโรป ลบ และ บวกสลับกันไป ภายใต้ปัจจัยที่น่าติดตาม เกี่ยวกับ หนี้สาธารณะของสเปน และ อิตาลี ที่อาจจะมีปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง โดยสังเกตได้จากสภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นของสเปน และ อิตาลี ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่องดังภาพ





สำหรับ SET สวิงแรง เปิดเช้าบวกมาก แล้ว ตอนเย็น ไม่บวกน้อย ก็ ติดลบ เล่นออกทางด้านข้าง โดยมีปัจจัย คือ

ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา อาจจะมีโอกาสที่จะลากหุ้นพยุงราคาไว้ได้บ้าง (แต่ทว่า Flow ต่างชาติรอบนี้มีกำไร TFEX ประมาณ 100 จุดขึ้นไป) ซึ่ง จากที่ขายมา 3 วัน มีซื้อพยุงไว้ 1 พันล้านบาท
- การปลดล๊อค นำเข้าไก่ ของกลุ่ม อียู และ ญี่ปุ่น หนุนกลุ่มส่งออกใน Q2.55 และ เป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า
- เงินบาท SIDE WAY ที่ระดับ 30.80  ยังไม่สามารถทะลุกรอบ 31.00 บาท ออกไปได้
- กลุ่ม BANK เข้าช่วงประกาศงบ Q1.55 ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีมาก จาก Consensus ที่คาดการเติบโตของปีนี้ไ้ว้สำหรับกลุ่ม BANK 20% นำร่องโดย KBANK ประกาศงบเร็วกว่าที่คาด ไปแล้วเมื่อเย็นวาน เติบโต 47%
- ราคาน้ำมัน กลับมายืนแถวบริเวณ 103 เหรียญ แต่หากราคาหลุดบริเวณนี้ แล้วลงไปต่ำกว่า 100 เหรียญ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป ซึ่งจากปัจจัยอิหร่าน ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาเล่นขาขึ้นได้ หากราคายืนเหนือ 103 เหรียญ

ปัจจัยด้านลบ

- TFEX ต่างชาติ SHORT ออกมาอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคม ออกมาเป็น Short สุทธิ มากถึง 9,700 สัญญา แต่ก็นับว่าเป็นการปิดสถานะ Long จากที่ Long สะสมมามากถึง 11,000 สัญญา และ เริ่มเดือนใหม่ Short ออกมา 2,100 สัญญา แต่ช่วงนี้ต่างชาติมี Long กลับมาบ้างเล็กน้อย


สรุป จาก การวางกลยุทธ์ SET หาก SET กลับไปยืนบริเวณ 1,170 ได้ จะมีโอกาสที่ SET เล่นทางขึ้น หรือ เล่นสวิง SIDE WAY ดังนั้น จากที่ใช้กลยุทธ์เล่นทางลงไปเต็มตัว นั้น ณ ตอนนี้ หุ้น ที่เล่นลงอย่าง IVL ,BANPU ลงมามากแล้ว อาจจะมีทรงตัวและกลับตัวได้บ้าง

ส่วน TFEX หากราคายืนเหนือ 820 ปิด Short แล้วรอจังหวะ แต่หากราคายืนไม่ได้ ก็ถือ Short ไว้เป็นหลัก 

ส่วนใครที่เล่นลูก P ในเวลานี้ ต้องรอจังหวะก่อน และกำลังอยู่ในช่วงหาตัวเล่นที่เหมาะสม


โดยหุ้นลงทุนที่น่าสนใจ ยังคงเป็นตัวเดิม คือ TISCO TIPCO BCP เพิ่มหุ้น ROJNA เข้ามา
แต่บางตัวขึ้นมามากแล้ว อาจจะเลือกทางทยอยขายแล้วรอรับใหม่ คือ MAJOR  
บางตัว ไม่ค่อยเล่น ก็ยังไม่รีบเข้าซื้อในตอนนี้ คือ KK

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

ตลาดต่างประเทศพลิกปรับตัวขึ้น พา SET เล่นสวิงออกข้าง



ดาวน์โจน และ ยุโรป จากที่จัดเต็ม ลบหนัก แบบบรรยากาศเมื่อปีก่อน ที่ลงทีวันละ 2% - 3% ก็ปรับตัวพลิกบวกอีกครั้ง ซึ่งทำให้เอเชีย อย่าง ฮ่องกง และ จีน พลิกตัวบวกขึ้นมาแรง จากที่ปรับตัวลงไปมากในครั้งก่อน


สำหรับ ภาพ SET จากคราวก่อนที่ได้ลองย้อนเปรียบไปในช่วงที่ปรับตัวจาก NEW HIGH ในรอบที่แล้วจากระดับ 1,148 จุด (จุด A) จะพบว่า ดัชนีปรับลดติดต่อกันในเวลาสั้นๆ 5 วันทำการ ประมาณ 115 จุด หากลองนำมาเปรียบเทียบในรอบนี้ ปรับตัวจากจุด NEW HIGH ไปแล้ว 3 วัน 48 จุด จึงต้องระวังว่า มีโอกาสปรับตัวลงได้อีก ประมาณ 60 จุด ซึ่งเป้าหมายดัชนีรอบนี้ อาจจะลงไปอยู่ที่ระดับ 1,100 จุด ได้

ซึ่งในครั้งก่อน ดัชนีก็มีการยื้อปรับขึ้นมาแต่ไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ สำหรับในครั้งนี้ ดัชนีก็ปรับ ขึ้นตามต่างประเทศด้วย และกำลังมาทดสอบ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ที่ระดับ 1,174





ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา อาจจะมีโอกาสที่จะลากหุ้นพยุงราคาไว้ได้บ้าง (แต่ทว่า Flow ต่างชาติรอบนี้มีกำไร TFEX ประมาณ 100 จุดขึ้นไป)
- การปลดล๊อค นำเข้าไก่ ของกลุ่ม อียู และ ญี่ปุ่น หนุนกลุ่มส่งออกใน Q2.55 และ เป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า
- เงินบาท SIDE WAY ที่ระดับ 30.80  ยังไม่สามารถทะลุกรอบ 31.00 บาท ออกไปได้
- กลุ่ม BANK เข้าช่วงประกาศงบ Q1.55 ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีมาก จาก Consensus ที่คาดการเติบโตของปีนี้ไ้ว้สำหรับกลุ่ม BANK 20%


คลิกที่ภาพเพื่อขยายภาพให้ชัดมากขึ้น

 
ปัจจัยด้านลบ
- ราคาน้ำมัน ยืนบริเวณ 103 เหรียญ ไม่ได้ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป ซึ่งจากปัจจัยอิหร่าน ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาเล่นขาขึ้นได้ หากราคายืนเหนือ 103 เหรียญ
- TFEX ต่างชาติ SHORT ออกมาอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคม ออกมาเป็น Short สุทธิ มากถึง ร9,700 สัญญา แต่ก็นับว่าเป็นการปิดสถานะ Long จากที่ Long สะสมมามากถึง 11,000 สัญญา และ เริ่มเดือนใหม่ Short ออกมา 2,100 สัญญา
- มาตรการปรับค่าแรงเป็น 300 บาท และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงต่อเนื่อง จะเป็นตัวเร่งเงินเฟ้อ ที่อาจส่งผลลบต่อ GDP ในอนาคตได้

สรุป จากการวางกลยุทธ์ SET หาก SET กลับไปยืนบริเวณ 1,170 ได้ จะมีโอกาสที่ SET เล่นทางขึ้น หรือ เล่นสวิง SIDE WAY ดังนั้น จากที่ใช้กลยุทธ์เล่นทางลงไปเต็มตัว นั้น ณ ตอนนี้ ต้องกลับตัวก่อนส่วนหนึ่ง โดย หุ้นตัว BIGCAP  อย่างกลุ่มธนาคาร ต้องปิด Short แล้วรอช้อนซื้อเล่นเด้ง ส่วนหุ้น IVL ,BANPU ถือว่ายังคงอยู่ในขาลง เลือกถือ Short ไว้ได้

ใครชอบซิ่ง เล่น ลูก P ส่วน TFEX หากราคายืนเหนือ 820 ปิด Short แล้วรอจังหวะ 

สำหรับหุ้นที่ถืออยู่ ใช้กลยุทธ์ขายแล้วรอลงมารับที่ราคาต่ำกว่า เพื่อปรับต้นทุน ครับ

โดยหุ้นลงทุนที่น่าสนใจ ยังคงเป็นตัวเดิม ได้แก่ TIPCO TISCO KK MAJOR BCP

วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

SET จะเล่นขาลงเต็มตัวแบบคราวก่อนหรือไม่

ดาวน์โจน และ ยุโรป จัดเต็ม ลบหนัก แบบบรรยากาศเมื่อปีก่อน ที่ลงทีวันละ 2% - 3% (แตกต่างกับตอนช่วงขาขึ้น เสมือนว่าเวลาขาขึ้นขึ้นบันได เวลาขาลงลงลิฟท์)  ปัจจัยที่สำคัญในตอนนี้ คือ
- ความกังวลในหนี้ยุโรปกลับมาอีกครั้ง
- เศรษฐกิจ สหรัฐมีการจ้างงานน้อยกว่าที่คาดไว้ 
- กังวลกับมาตรการ FED ที่ออกมายืนยันว่าไม่มี QE3
- กังวลเศรษฐกิจยุโรปที่หดตัว การว่างงานอยู่ในระดับสูง


สำหรับภาพ SET ลองย้อนเปรียบไปในช่วงที่ปรับตัวจาก NEW HIGH ในรอบที่แล้วจากระดับ 1,148 จุด (จุด A) จะพบว่า ดัชนีปรับลดติดต่อกันในเวลาสั้นๆ 5 วันทำการ ประมาณ 115 จุด หากลองนำมาเปรียบเทียบในรอบนี้ ปรับตัวจากจุด NEW HIGH ไปแล้ว 3 วัน 48 จุด จึงต้องระวังว่า มีโอกาสปรับตัวลงได้อีก ประมาณ 60 จุด ซึ่งเป้าหมายดัชนีรอบนี้ อาจจะลงไปอยู่ที่ระดับ 1,100 จุด ได้


 
ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา อาจจะมีโอกาสที่จะลาดหุ้นพยุงราคาไว้ได้บ้าง (แต่ทว่า Flow ต่างชาติรอบนี้มีกำไร TFEX ประมาณ 100 จุดขึ้นไป)


ปัจจัยด้านลบ
- ราคาน้ำมัน ยืนบริเวณ 103 เหรียญ ไม่ได้ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป
- เงินบาทอ่อนค่า ที่ระดับ 30.90 - 31.00  ต้องคำนึงถึงการไหลกลับของเงินต่างชาติอย่างรวดเร็วด้วย หากว่าเงินบาทอ่อนค่ามากไปกว่าระดับที่ 31.00 บาท
- TFEX ต่างชาติ SHORT ออกมาอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคม ออกมาเป็น Short สุทธิ มากถึง ร9,700 สัญญา แต่ก็นับว่าเป็นการปิดสถานะ Long จากที่ Long สะสมมามากถึง 11,000 สัญญา และ เริ่มเดือนใหม่ Short ออกมา 2,100 สัญญา
- มาตรการปรับค่าแรงเป็น 300 บาท และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงต่อเนื่อง จะเป็นตัวเร่งเงินเฟ้อ ที่อาจส่งผลลบต่อ GDP ในอนาคตได้

สรุป จากการวางกลยุทธ์ SET ยืนบริเวณ 1,170 ไม่ได้ จะใช้กลยุทธ์เล่นทางลง นั้น ณ วันนี้ ต้องเลือกนำมาใช้ โดยที่ เล่นทางลงในหุ้นตัว BIGCAP 

ได้แก่ IVL ,BANPU ,KBANK ,SCB

ใครชอบซิ่ง เล่น ลูก P ส่วน TFEX ใช้กลยุทธ์ Short ที่ราคาเหนือ 810.50

สำหรับหุ้นที่ถืออยู่ ใช้กลยุทธ์ขายแล้วรอลงมารับที่ราคาต่ำกว่า เพื่อปรับต้นทุน ครับ

โดยหุ้นลงทุนที่น่าสนใจ ยังคงเป็นตัวเดิม ได้แก่ TIPCO TISCO KK MAJOR BCP

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

SET เริ่มขาด Flow จากต่างชาติที่หยุดซื้อเป็นวันแรก

SET ช่วงนี้ ต้องระวัง  จากปัจจัย ตลาดหุ้นดาวน์โจน ที่ลดลงต่ำกว่า 13,000 จุด มาอยู่ที่ 12,966 ซึ่งที่ผ่านมา SET ไทยเราดัชนีเคลื่อนไหวได้ใกล้เคีียงกับ ดาวน์โจนมาก ดังนั้น หากดัชนี ของดาวโจนไม่สามารถกลับไปอยู่บริเวณ NEW HIGH ของรอบ ที่ระดับ 13,200 จุด ก็อาจจะเป็นสัญญาณการสิ้นสุดของรอบขาขึ้นรอบนี้ได้ ซึ่งปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในช่วงนี้ คือ 
- เศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่ม 120,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ 200,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าแนวโน้มการจ้างงานเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนที่เกือบ 150,000 ตำแหน่งต่อเดือน
- กังวลกับมาตรการ FED ที่ออกมายืนยันว่าไม่มี QE3
- กังวลเศรษฐกิจยุโรปที่หดตัว การว่างงานอยู่ในระดับสูง


SET ณ วันก่อน มาอยู่บริเวณ แนวรับที่ประมาณการไว้ที่ระดับ  1,180 หาก SET ไม่เด้งกลับไปบริเวณ HIGH 1214 ก็เป็นไปได้ว่า SET จะจบขาขึ้นของรอบในช่วงนี้  

ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท คาดว่ายังไม่น่าที่จะทุบลงมาง่ายๆ


ปัจจัยด้านลบ
- ราคาน้ำมัน ยืนบริเวณ 103 เหรียญ ไม่ได้ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป
- เงินบาทอ่อนค่า ที่ระดับ 30.90 - 31.00  และ เมื่อพิจารณาประกอบการซื้อขายของต่างชาติ เริ่มขายออกมาวันแรก 77 ล้านบาท 
- TFEX ต่างชาติ SHORT ออกมาอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคม ออกมาเป็น Short สุทธิ มากถึง 9,700 สัญญา แต่ก็นับว่าเป็นการปิดสถานะ Long จากที่ Long สะสมมามากถึง 11,000 สัญญา และ เริ่มเดือนใหม่ Short ออกมา 1,800 สัญญา
- มาตรการปรับค่าแรงเป็น 300 บาท และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงต่อเนื่อง จะเป็นตัวเร่งเงินเฟ้อ ที่อาจส่งผลลบต่อ GDP ในอนาคตได้

สรุป กลยุทธ์ใน 3 วัน ซึ่งจะเป็นช่วงติดวันหยุดยาว วอลุ่มตลาดอาจจะมีน้อย ลุ้นแค่ให้ตลาดเล่นรีบาวน์รอบสั้นๆ เลือกเล่นตัวเล็ก  เลี่ยง กลุ่ม BIG CAP อย่างพลังงานไปก่อน  (มีที่ชอบและเห็นว่าราคายังพอยืนได้ จะเป็น BCP 1 ตัว) และหาก SET ยืนบริเวณ 1,170 ไม่ได้ จะใช้กลยุทธ์เล่นทางลง


หุ้นที่น่าสนใจ
TIPCO ,MAJOR ,TISCO ,KK

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

SET เริ่มเล่น SIDEWAY

SET เริ่มเล่นออกข้าง จึงมองกรอบ ไว้  คือ แนวรับ 2 แนว 1,172 - 1,186 - แนวต้าน บริเวณ HIGH 1,214  

ปัจจัยด้านบวก  
- ราคาน้ำมัน ยังอยู่บริเวณ 105 เหรียญ หนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- มาตรการขึ้นค่าแรง และ เงินเดือน คาดส่งผลดีต่อธุรกิจกลุ่มค้าปลีก
- การประกาศจ่ายปันผลของ กลุ่มธนาคารใหญ่ๆ ทำให้มีแรงซื้อ ปิด Short เข้ามาพยุงไว้


ปัจจัยด้านลบ
- เงินบาทอ่อนค่า และ ออกทาง SIDE WAY ที่ระดับ 30.70 - 30.80  และ เมื่อพิจารณาประกอบการซื้อขายของต่างชาติ เริ่มซื้อน้อยลง
- TFEX ต่างชาติ SHORT ออกมาอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคม ออกมาเป็น Short สุทธิ มากถึง 9,700 สัญญา แต่ก็นับว่าเป็นการปิดสถานะ Long จากที่ Long สะสมมามากถึง 11,000 สัญญา และ เริ่มเดือนใหม่ Short ออกมา 1,800 สัญญา
- มาตรการปรับค่าแรงเป็น 300 บาท และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงต่อเนื่อง จะเป็นตัวเร่งเงินเฟ้อ ที่อาจส่งผลลบต่อ GDP ในอนาคตได้

สรุป มองหาหุ้นเล่นที่น่าสนใจเป็นรายตัว


หุ้นที่น่าสนใจ
BCP 
TIPCO