วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

SET ลุ้นเล่นไปต่อ จากต่างชาติ Long Future กลับมาเยอะ

ภาพ ซ้ายคือยอดสะสสม Index Future ต่างชาติ จาก Short จู่ๆ หันมา Long ปิด Short 5,800 สัญญาทันที ส่วนภาพขวาเป็นของกองทุน Short มาไม่มาก



ติดตาม เทรนหน่อย ภาพกราฟราย Sector กลุ่มธนาคารเจ๋งสุด กลุ่มสื่อสาร เล่นมันอยู่ดีดี ทำท่าจะหลุดเทรนซะแล้ว กลุ่มพลังงาน กำลังกลับเข้าเทรน รอยืนในกรอบเทรนได้ดีดีก่อน จะตาม เล่นรีบาวนด์ ตามราคาน้ำมันซะหน่อย

 
กลยุทธ์ เกาะเทรน เล่นในกรอบ A ก่อน 1,185 - 1,220

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

SET ยังแข็งแกร่ง Rebound รายกลุ่ม



ภาพรวมต่างประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา ปรับฐานลงแรง และทรงตัวได้ในวันที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยที่สำคัญ คือ
- ประเด็นกรีซ จะออกจากยูโรโซนหรือไม่ เริ่มกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง จากที่อาจจะไม่ได้รับเงินกู้ก้อนใหม่
- ประเด็นสเปน ในรัฐแต่ละรัฐในประเทศ ต่างขอความช่วยเหลือกับรัฐบาลกลาง
- ผลการประมูลพันธบัตรในแต่ละครั้ง แม้จะผ่านไปได้ดีแต่ อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
- การประชุมต่างๆ ทั้งของ ECB , FED ที่มีให้ลุ้นว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรบ้าง
- มูดี้ลดอันดับความน่าเชื่อถือ ในประเทศยุโรป และ ธนาคารต่างๆ
- อังกฤษออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการอัดฉีดเงินเข้าระบบ (QE)



 วานนี้ SET ปรับตัวลง โดยนักลงทุน สถาบัน กับ โบรคเกอร์ เป็น กลุ่มที่ขายสุทธิ ออกมา สำหรับในเดือนกรกฏาคม นั้น ยอดสุทธิโดยรวม ยังทรงๆ โดย กองทุน กับต่างชาติ ขายสุทธิ ประมาณ 3 พันล้าน ส่วนพอร์ตโบรค ขายสุทธิ 500 กว่าล้าน ซึ่ง   ปัจจัยที่สำคัญคือ





ปัจจัยด้านบวก  
- ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร ครึ่งปี โต 16% มีลุ้นการประกาศจ่ายเงินปันผล ระหว่างกาล
- ราคาน้ำมันมีรีบาวนด์ จากที่ลงไปถึงระดับ 77 เหรียญ ล่าสุด กลับมายืนที่ระดับ 90 เหรียญ ส่งผลให้กลุ่มพลังงาน มีลุ้นงบ ขาดทุนน้อยกว่าคาด และ ฟื้นตัวใน Q3.2555
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7% ตลอดทั้งปี
-  ข่าวการประมูล 3 G ของกลุ่มสื่อสาร เป็นปัจจัยหนุนให้กลุ่มสื่อสาร ช่วยพยุงตลาด  
-  เงินบาทยังแกว่งในระดับ 31.60 บาท และทำท่าแข็งค่าลงมา แสดงว่าเงินต่างชาติยังไม่หายไปไหน


ปัจจัยด้านลบ
- ต่างชาติ Short Tfex ค้างไว้ 2 วัน 4 พันกว่าสัญญา ที่ระดับดัชนีประมาณ 1,185 จุด เป็นจุดที่ทำให้ต้องระมัดระวัง
- กลุ่ม CPF CPALL ปรับตัวลดลงมามาก ทำให้บรรยากาศการลงทุนเป็นลบ


สรุป กลยุทธ์การลงทุน ในตอนนี้ แม้ว่าตลาดจะขึ้นมาตอบรับกับผลประการกลุ่มธนาคารไปมากแล้ว แต่ว่าก็ยังมีกลุ่มสื่อสารที่เป็นตัวพยุงตลาด ดังนั้น เล่นแบบเกาะแนวโน้มไปกับกลุ่มสื่อสาร เพื่อลุ้นผลประกอบการกลางปี และ เงินปันผลระหว่างกาล โดยเลือกเลือกตัวเล่น ได้แก่

INTUCH แนวรับ 62.50 63.50 บาท เป้าหมายระยะสั้น 66 บาท

JAS  แนวรับ 3.24 3.34 บาท เป้าหมายระยะสั้น 3.50 บาท

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตลาดเล่นในกรอบ ยังขาดปัจจัยใหม่ๆ



ปัจจัยต่างประเทศ ยังคงวนเวียนกับเรื่องยุโรป เช่นเดิม จึงคาดการณ์ว่า หุ้นไทย น่าจะเคลื่อนไหว จากปัจจัยภายในเป็นสำคัญ โดยปัจจัยเด่น ในวันนี้ คือ 
- การยืดเวลาคุ้มครองเงินฝาก
- ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของ กลุ่มธนาคาร ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะออกมาเติบโตดี

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตลาดหุ้นทั่วโลก ยังยืนอยู่เหนือค่าเฉลี่ย 5 วัน ถือว่า ยังมีแนวโน้มที่ดี

ภาพรวมต่างประเทศ อยู่ในแนวโน้มที่ดี คลายความกังวลปัญหาหนี้ยุโรป และ กรีซ ไปได้ (กรีซ ตอนแรกทำท่าจะออกจากยูโรโซน พอตอนหลัง คนไม่อยากออกกันแล้ว)



SET ไทย ภาพรวม แนวโน้มดี ยืนเหนือค่าเฉลี่ย 5 วันได้ แต่แรงซื้อ ไม่ชัดเจน เนื่องจาก การขึ้นรอบนี้ เป็นแรงซื้อของ กองทุน + โบรคเกอร์ ซึ่งต้องระวัง เพราะ เดือนนี้ โบรคเกอร์ซื้อสุทธิไปเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ต่างชาติ ก็ปิด Short tfex ไปเป็นจำนวนมาก







แนวโน้มค่าเงินบาท ยังมีท่าทีที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากภาวะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าด้วย





น้ำมัน หลังจากที่อ่อนแอ ลงมานาน ก็เริ่ม SIDEWAY สะสมกำลัง อาจจะมีรีบาวนด์ได้บ้าง แต่มองแล้วคงยังไม่ไปไหนไกล 




กลยุทธ์

เล่นตามเกม กองทุน + พอร์ตโบรค ที่อาจจะดันราคาทำ Window dressing ปิดงบครึ่งปี โดยมีปัจจัยเชิงบวกจากการคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่จะประกาศในช่วงเดือนหน้า 

ในขณะที่กลุ่มพลังงาน ยังเป็นปัจจัยเชิงลบต่อตลาดจากการคาดการณ์ว่าจะขาดทุนใน Q2.2555 (ปล. เชื่อว่าราคาที่เล่นลงมา ก็รวมคาดการณ์ไว้แล้ว หากราคาน้ำมัน ไม่ทะลุต่ำกว่า 80 เหรียญ ราคาหุ้นกลุ่มนี้ ไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่านี้มากนัก)


หุ้นน่าสนใจ

กลุ่มธนาคาร เ้ล็งธนาคารใหญ่ อย่าง BBL KBANK SCB

SCB น่าสนใจ ใครชอบซิ่ง ลูก SCB01CB มีความน่าสนใจมาก เนื่องจากราคามี Discount เป็นครั้งแรก ในขณะที่อายุเหลืออีก 2 เดือน



คำนวณแล้ว ราคาเหมาะสมของ SCB01CB ณ ราคา SCB 145 = 2.02 



วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

SET ทำ NEW LOW ต่อเนื่อง ถือเงินสด รอลงทุน

ภาพรวม ต่างประเทศ ปรับตัวลดลง 






ปัจจัยที่สำคัญ ยังคงอยู่ในประเด็น 
- ภาวะขาดสภาพคล่องของธนาคารในประเทศที่มีปัญหา อย่างกรีซ สเปน ต้องติดตามว่า มีการแห่ถอนเงินออกจากธนาคารในกลุ่มมากน้อยเพียงใด
- กรีซจะออกจากยูโรโซนหรือไม่ (ถ้าออก ก็ชักดาบหนี้ทั้งหมด ส่งผลสะเทือนทั้งกลุ่ม)
 

ภาพรวมตลาด SET INDEX ยังคงเป็นแนวโน้มทางลง


ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล เริ่มมีผล ช่วยหนุนกำไรบริษัทต่างๆ ใน Q1 ให้เติบโตขึ้น
- เงินต่างชาติที่เข้ามาเป็นแสนล้าน ยังขายออกไม่เยอะ

- เงินบาท จากเดิมที่อ่อนค่าจากภาวะเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ณ ตอนนี้ ค่าเงินบาทก็แข็งค่ากลับรวดเร็วในกรอบ จากระดับ 31.90 เหลือ 31.50 บาท





ปัจจัยด้านลบ
- ต่างชาติยังขายหุ้น และ Short TFEX ต่อเนื่อง

- ราคาน้ำมัน ปรับตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลลบต่องบกลุ่มพลังงาน Q2.2555 นี้มาก





กลยุทธ์


มองเป้าหมายดัชนีเล่นทางลง ระดับเป้าดัชนี ที่ 1,060 จุด  ถ้ามีหุ้นเน้นขายออก ถือเงินสด
ถ้าเล่นเก็งกำไร Short TFEX และ เล่น DW P 









วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

SET ยังมีปัจจัยลบสูง ช่วงนี้ควรเน้นถือเงินสด

ตลาด มีปัจจัยลบสูง การ ถือหุ้นเป็นความเสี่ยง ควรจะใช้กลยุทธ์ เน้นเก็งกำไรและถือเงินสด ครับ

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

SET เด้งแล้วลง ปัจจัยลบกดดันสูง


ต่างประเทศ ปรับตัวลงต่อเนื่องติดต่อกัน ทั้งสัปดาห์ ซึ่ง จากข่าวทั่วๆไป จะบอกกันว่า กังวล กรีซ ครั้งแล้วครั้งเล่า กังวลว่า ยูโรจะพัง แต่ในมุมมองผม ให้น้ำหนักเพียงอย่างเดียว คือ การ ปรับพอร์ตขายทำกำไร เนื่องจาก หากนับจากต้นปีแล้วนั้น ดัชนีทั่วโลก ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 10% จึงขายทำกำไรกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา

ปัจจัยที่สำคัญ คือ 
- ความคืบหน้าของ กรีซ ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรต่อไป จะเอาอยู่หรือไม่ เพราะ ต้องรอเลือกตั้งใหม่ จะดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ(แต่ไม่มีเงิน ต้องกู้กิน กู้ใช้อย่างเดียว) จะอยู่ในยูโรต่อไปได้หรือไม่
- สเปน โปรตุเกส อิตาลี Yield พันธบัตรของกลุ่มประเทศเหล่านี้ เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง



คาดว่า หลังจากลงติดต่อกันทั้งสัปดาห์ น่าจะมีพักบ้าง เด้งเล็กน้อย แล้วค่อยเตรียมตัวลงต่อ ในครั้งหน้า จากปัจจัยแรงขายทำกำไร หลบความเสี่ยงจากข่าวลบต่างๆ โดยเฉพาะ ข่าวร้ายจากยุโรปที่มีมาต่อเนื่อง และ ติดตาม ปัจจัยหนี้สาธารณะญี่ปุ่น อย่างใกลชิด เนื่องจากระดับหนี้สูง ไม่มีลดลง จนโดนลดอันดับเครดิตไปแล้ว



ปัจจัยด้าน ราคาน้ำมัน ปรับตัวลงอย่างหนัก จากระดับสูง 105 เหรียญ ลงสู่ 91 เหรียญ ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าปรับตัวแรง หากไม่มีแรงเด้งแรงๆ  ไม่กลับมายืนเหนือ 93 เหรียญ ให้มีลุ้นเด้ง หรือ ราคามาพักตัวบริเวณนี้ นานๆ นั้น น่ากังวลมากว่า จะส่งผลลบต่อกลุ่ม พลังงาน ใน Q2.2555 นี้ และ ปัจจัยของน้ำมันในรอบนี้คือ คลายกังวลเรื่องอิหร่าน เจรจากันได้ ทำให้น้ำมัน ซึ่งถูกเก็งกำไรมานาน ปรับตัวลงแรงนั่นเอง




มาดูดัชนีกลุ่มพลังงาน กันบ้าง ราคาไหลลงต่อเนื่อง SET NEW HIGH ดัชนีกลุ่ม ไม่ยอมทำ NEW HIGH ตาม และราคายังคงเป็นแนวโน้มขาลง ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ดูกราฟ NVDR ต่างชาติ ก็ขายต่อเนื่อง ดังนั้น กลยุทธ์สำหรับกลุ่มนี้คือ เด้งแล้วขาย (Cut Loss ก็อาจจะต้องยอม)




แนวโน้มค่าเงินบาท อ่อนค่าต่อเนื่อง  ซึ่งระดับที่เงินบาท 31.90 นั้น เป็นช่วง SET เท่ากับ 1,040 จุด ตอนนี้เงินบาท 31.40 อีกไม่ไกล ที่เงินบาทมีโอกาสไปถึงระดับนั้น ถือว่า SET มีความเสี่ยงทางลงสูงมาก






SET เล่นทางลงมาตลอดทาง ที่ผ่านมา ใช้กลยุทธ์ที่เน้นทาง short หรือขายไปก่อน จะช่วยเอาตัวรอด และหาเงินได้ระดับหนึ่ง ในขณะที่บางช่วง เล่นเด้งระยะสั้น ทำเงินได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น กลยุทธ์ตอนนี้ ยังคงต้องเน้นหาเงินจากการ เล่นขาลง ต่อไปก่อน...

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

SET ปรับฐานรอบใหญ่ จับตามองตัวชี้วัด คือ ค่าเงินบาท

ทั่วโลกพร้อมใจกันปรับฐาน




น้ำมัน ทำ LOW ที่ระดับ 92 เหรียญ จะยืนไหว แล้ว รีบาวน์ หรือไม่



ค่าเงินบาท อ่อนค่าต่อเนื่อง ไม่มีปรับตัวย่อแข็งค่าซักนิด





ช่วงค่าเงินอ่อนค่า SET INDEX อยู่ระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้น เราจึงต้องระวังว่า หากค่าเงินบาทอ่อนค่าไปถึงระดับ HIGH เก่าที่ 31.92 บาท ก็น่าคิดว่า SET จะไปอยู่ที่ระดับต่ำหรือไม่



กลยุทธ์หุ้นในช่วงนี้ จึงเป็นการขาย ถือเงินสด ใครที่เก็งกำไร ก็เล่นขาลงรายตัว...

TFEX ก็เล่น SHORT ครับ

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

SET หลุดแนว สำคัญ 1220 อีกครั้ง

ผมตั้งเกณฑ์ไว้ 1,220 หลุด ต้องทยอยลดพอร์ต อย่างเดียว

TFEX S50M12 เมื่อวาน (08.05.55) จากที่ลบ ก็มีแรงไล่ ขึ้นไปถึงระดับ 867 จุด แล้ว ไม่ไปต่อ มาวันนี้ (09.05.55) มีแรงขายมาก ดังนั้น ต้อง Stop loss ตัดทิ้งไปก่อน ครับ

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

SET ปรับฐาน ตามแรงขายของหุ้นต่างประเทศ



ต่างประเทศ ปรับฐาน แรง -1.5% โดยประมาณ ซึ่งจากการพิจารณา จากภาพ กราฟ แล้วนั้น จะเห็นว่า แกว่งตัวในลักษณะ SIDE WAY ในกรอบ โดยปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในตอนนี้ื คือ
- ผลการเลือกตั้งใน ฝรั่งเศส กับนโยบายที่จะเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่ง อาจจะมีผลต่อการขาดดุลงบประมาณ และส่งผลต่อหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดกังวลมาก และ ผลการเลือกตั้งในลักษณะนี้ มีผลออกมาในหลายประเทศในหลุ่มยูโรโซน ดังเช่นที่ กรีซ เป็นต้น ซึ่งได้สร้างความกังวลต่อตลาดมาก



ในขณะที่ ทางเอเชีย อย่างกลุ่ม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย นั้น ก็เริ่มมีทิศทาง หลุดจากกรอบ Up trend มาแกว่ง ตัวแบบ SIDE WAY ด้วย


ปัจจัยด้าน ราคาน้ำมัน ปรับตัวลงอย่างหนัก จาก 105 เหรียญ ลงสู่ 98 เหรียญ ในช่วง 2 วันทำการ ถือว่าปรับตัวแรง หากไม่มีแรงเด้งแรงๆ หรือ ราคามาพักตัวบริเวณนี้ นานๆ นั้น น่ากังวลมากว่า จะส่งผลลบต่อกลุ่ม พลังงาน เราได้ โดย ปัจจัยที่เข้ามามีผลต่อน้ำมัน คือ กลุ่มโอเปค จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน กดราคาให้ต่ำกว่า 100 เหรียญ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ




ภาพ set ปรับฐานลงมาช่วงบริเวณ 1,220 และ S50M12 ปรับตัวมาบริเวณ 860 ตามที่คาดการณ์ไว้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น ซึ่งจากเดิมมองว่า บริเวณนี้ มีลุ้น รีบาวน์ อาจจะรับไม่ไหว จากปัจจัยต่างประเทศที่กดดัน





จึง กำหนดกลยุทธ์ไว้ โดยคาดการณ์ว่า SET จะเล่น SIDE WAY ในกรอบ 1,200 -1,240 ซึ่งจากวันศุกร์ที่ เน้นรับบริเวณนี้ไว้นั้น ทั้งหุ้น TFEX S50M12 ก็ถือว่า เป็นราคา เฉลี่ยของระดับ SET ที่จะแกว่งตัวในกรอบนี้

ปัจจัยด้านบวก  
- รอข่าวดีมาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา ซึ่งการเข้ามาของเงินต่างชาติรอบนี้เริ่มจาก Long TFEX ก่อน แล้วตามด้วยการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะทำกำไร TFEX ออกไปหมดแล้ว แต่ทว่าเงินที่จมอยู่ 8 หมื่นกว่าล้านก้อนนี้ ไม่น่าที่จะออกได้ง่ายและเร็ว จึงมองว่ามีโอกาสที่ต่างชาติจะต้องลากราคาหุ้นต่อได้อีก

- เงินบาท SIDE WAY ที่ระดับ 30.75 - 31.00  ยังไม่ทะลุกรอบ 31.00 บาท ออกไปได้ แสดงว่า เงินต่างชาติยังไม่ออกไปไหน 

- ลุ้นผลประกอบการ กลุ่มสื่อสาร ที่คาดว่าจะออกมาดี มี ADVANC ออกมาแล้ว ดี ส่วน DTAC แย่

ปัจจัยด้านลบ
- ราคาน้ำมัน หลุดลง ต่ำกว่า 100 เหรียญ ด้วยเหตุ โอเปค จะเพิ่มกำลังการผลิต จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป
- ต่างชาติ ซื้อหุ้น ไม่มากนัก ในแต่ละัวัน หลักไม่เกิน 1 พันล้าน


กลยุทธ์ จัดพอร์ตดังนี้




BIGCAP ที่ลุ้นผลประกอบการ  = กลุ่มสื่อสาร ADVANC (งบออกมาโต 50%)  INTUCH
                                                กลุ่มอาหาร CPF  
                                                กลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น BCP TOP (รอน้ำมันเด้ง ก็น่าออกของไปเพื่อลุ้นตัวอื่นก่อน)   


หุ้นลงทุน TIPCO ROJNA BLA THRE MAJOR


S50M12 จากที่ Long มา 860 จุดนั้น ยังมองว่า Hold ไว้ก่อนทั้งจำนวน

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

SET วิ่งทำ NEW HIGH ต่อเนื่อง ถึงเวลาที่ต้องปรับพอร์ต อีกครั้ง

 ภาพหุ้นยุโรป ยิืนระดับ SIDE WAY ยังไม่น่ากังวล

 อินโด ฟิลิปปินส์ ยังทรงตัวในแนวโน้มขาขึ้น


 ส่วนของ SET ไทย ดัชนี พุ่ง เปิดลอย เหนือ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน จึงต้องระวังว่าอาจจะมีย่อได้


ปัจจัยด้านบวก  
- รอข่าวดีมาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา ซึ่งการเข้ามาของเงินต่างชาติรอบนี้เริ่มจาก Long TFEX ก่อน แล้วตามด้วยการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะทำกำไร TFEX ออกไปหมดแล้ว แต่ทว่าเงินที่จมอยู่ 8 หมื่นกว่าล้านก้อนนี้ ไม่น่าที่จะออกได้ง่ายและเร็ว จึงมองว่ามีโอกาสที่ต่างชาติจะต้องลากราคาหุ้นต่อได้อีก

- เงินบาท SIDE WAY ที่ระดับ 30.75 - 31.00  ยังไม่สามารถทะลุกรอบ 31.00 บาท ออกไปได้ แสดงว่า เงินต่างชาติยังไม่ออกไปไหน 








- ราคาน้ำมัน ยืนแถวบริเวณ 105 เหรียญ แต่หากราคาหลุดบริเวณนี้ แล้วลงไปต่ำกว่า 100 เหรียญ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป ซึ่งจากปัจจัยอิหร่าน ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาเล่นขาขึ้นได้ หากราคายืนเหนือ 103 เหรียญ 
- ลุ้นผลประกอบการ กลุ่มสื่อสาร ที่คาดว่าจะออกมาดี

ปัจจัยด้านลบ
- ต่างชาติ ซื้อหุ้น ไม่มากนัก ในแต่ละัวัน หลักไม่เกิน 1 พันล้าน
จัดพอร์ต เปลี่ยนตัวนักกีฬาคร่าวๆก่อนดังนี้ครับ


เดิม

BIGCAP = INTUCH DTAC KTB


หุ้นลงทุน TISCO TIPCO BCP ROJNA  BLA THRE MAJOR



ปรับใหม่

BIGCAP ที่ลุ้นผลประกอบการ  = กลุ่มสื่อสาร ADVANC DTAC INTUCH
                                                กลุ่มอาหาร CPF  
                                                กลุ่มโรงกลั่น TOP ลุ้นกำไร STOCK น้ำมัน



หุ้นลงทุน TIPCO ROJNA BLA THRE MAJOR


S50M12 รอช่วงระดับย่อ เข้าใกล้ 860 จุด LONG หากไม่ลงมา เน้นรอดูสถานการณ์ก่อน

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

Stock Watch list

ตอนนี้ ผมอาจจะไม่มีเวลาในการ update ข้อมูลมากนัก จึงขอลงหุ้นที่น่าสนใจ ที่ติดตามและเล่นกับมันอยู่คือ
BCP TIPCO ROJNA  MAJOR TISCO เพิ่ม BLA  THRE INTUCH


วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

SET ยังมีโอกาสไปต่อได้ ในเมื่อยืนระดับ 1,174 ได้อย่างมั่นคง

ดาวโจน และ ยุโรป เคลื่อนไหวแดนลบ โดยที่ แนวโน้มของดาวโจนที่อยู่ระดับ 13,000 จุดนั้น ถือว่าเป็นระดับที่ยังไม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น เป็นสำคัญ แต่ฝั่งยุโรป ยังต้องติดตามความเคลื่อนไหว ดัชนีตลาดหุ้นของสเปน และ อิตาลี ที่ยังปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง โดยลบหนักมากถึง 2-3% ส่วนดัชนีผู้นำยุโรปอย่าง เยอรมัน ลบไม่มากนัก ซึ่งในช่วงปีก่อนรอบที่ดัชนี Panic กันทั่วโลก ก็มีลักษณะแบบนี้คือ ทางยุโรปลงหนักๆติดกันหลายวันก่อน แล้วเราก็ลงตามไปทีหลัง (ช่วงดัชนีไทยหลุดพันจุด)

ปัจจัยที่น่าติดตาม เกี่ยวกับ หนี้สาธารณะของสเปน และ อิตาลี ที่อาจจะมีปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง


ส่วนภาพของ ตลาดหุ้นทางเอเชีย ยังอยู่ในแนวโน้ม ทางขึ้น ดังภาพ


ดังนั้น ในเบื้องต้นต้องติดตามว่า การปรับตัวลดลงของหุ้นทางฝั่งยุโรป (โดยเฉพาะจาก อิตาลี และ สเปน) จะส่งผลต่อทางเอเชียมากน้อยเพียงใด (ระดับการ Panic) หากประเทศใด ดัชนีปรับตัวลดลงหลุดกรอบแนวโน้มที่วางไว้ เพื่อความปลอดภัย เราจะต้องลดพอร์ตการลงทุนลงมาด้วย





สำหรับ ภาพ SETรอบนี้ ดัชนีลดลงจากจุด NEW HIGH 60 จุดแล้วกลับตัวขึ้นเหนือ เส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 1,174 เป็นระดับของเส้นแนวรับของขาขึ้นรอบที่ผ่านมา และขึ้นมาด้วยแรงซื้อที่หนาแน่นในหุ้น BIG CAP ที่สำคัญ โดยมีปัจจัยต่างๆ คือ



ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา ซึ่งการเข้ามาของเงินต่างชาติรอบนี้เริ่มจาก Long TFEX ก่อน แล้วตามด้วยการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะทำกำไร TFEX ออกไปหมดแล้ว แต่ทว่าเงินที่จมอยู่ 8 หมื่นกว่าล้านก้อนนี้ ไม่น่าที่จะออกได้ง่ายและเร็ว จึงมองว่ามีโอกาสที่ต่างชาติจะต้องลากราคาหุ้นต่อได้อีก
- การปลดล๊อค นำเข้าไก่ ของกลุ่ม อียู และ ญี่ปุ่น หนุนกลุ่มส่งออกใน Q2.55 และ เป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า
- เงินบาท SIDE WAY ที่ระดับ 30.80  ยังไม่สามารถทะลุกรอบ 31.00 บาท ออกไปได้ แสดงว่า เงินต่างชาติยังไม่ออกไปไหน
- กลุ่ม BANK เข้าช่วงประกาศงบ Q1.55 ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีมาก จาก Consensus ที่คาดการเติบโตของปีนี้ไ้ว้สำหรับกลุ่ม BANK 20% นำร่องโดย KBANK ประกาศงบเร็วกว่าที่คาด ไปแล้วเมื่อเย็นวาน เติบโต 47%โดย เฉพาะในเดือน เมษายน ต่างชาติ เข้าซื้อหุ้น KBANK มากที่สุดในกลุ่มธนาคาร ประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท หรือจำนวน 14 ล้านหุ้น
- ราคาน้ำมัน กลับมายืนแถวบริเวณ 103 เหรียญ แต่หากราคาหลุดบริเวณนี้ แล้วลงไปต่ำกว่า 100 เหรียญ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป ซึ่งจากปัจจัยอิหร่าน ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาเล่นขาขึ้นได้ หากราคายืนเหนือ 103 เหรียญ

ปัจจัยด้านลบ
- ในช่วงนี้เหมือนจะหาไม่เจอ เพราะเงินไหลเข้า ข่าวดีท่วมตลาด ดังนั้น ปัจจัยลบต้องติดตามดัชนีทางยุโรปในประเทศ สเปน และ อิตาลี ที่ปรับตัวลงหนักติดต่อกันหลายวัน ว่าจะทำให้เกิด Panic Sell หรือไม่


สรุป จาก การวางกลยุทธ์ SET หาก SET กลับไปยืนบริเวณ 1,170 ได้ ก็ต้องเล่น SET ทางขึ้น โดยหุ้น BIG CAP ที่น่าสนใจ สำหรับรอบสั้นๆ นี้คือ DTAC KTB 
หุ้นเล็กรองลงมา JAS

ส่วน TFEX เล่น Long เป็นหลัก ช่วงราคา 825 - 830 จุด

ขาซิ่ง เลือกลูก C DTAC KTB หาจังหวะเล่นได้


สำหรับหุ้นลงทุนที่ยังสนใจ  TISCO TIPCO BCP ROJNA 
แต่บางตัวขึ้นมามากแล้ว อาจจะเลือกทางทยอยขายแล้วรอรับใหม่ คือ MAJOR