วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

SET ยังมีโอกาสไปต่อได้ ในเมื่อยืนระดับ 1,174 ได้อย่างมั่นคง

ดาวโจน และ ยุโรป เคลื่อนไหวแดนลบ โดยที่ แนวโน้มของดาวโจนที่อยู่ระดับ 13,000 จุดนั้น ถือว่าเป็นระดับที่ยังไม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น เป็นสำคัญ แต่ฝั่งยุโรป ยังต้องติดตามความเคลื่อนไหว ดัชนีตลาดหุ้นของสเปน และ อิตาลี ที่ยังปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง โดยลบหนักมากถึง 2-3% ส่วนดัชนีผู้นำยุโรปอย่าง เยอรมัน ลบไม่มากนัก ซึ่งในช่วงปีก่อนรอบที่ดัชนี Panic กันทั่วโลก ก็มีลักษณะแบบนี้คือ ทางยุโรปลงหนักๆติดกันหลายวันก่อน แล้วเราก็ลงตามไปทีหลัง (ช่วงดัชนีไทยหลุดพันจุด)

ปัจจัยที่น่าติดตาม เกี่ยวกับ หนี้สาธารณะของสเปน และ อิตาลี ที่อาจจะมีปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง


ส่วนภาพของ ตลาดหุ้นทางเอเชีย ยังอยู่ในแนวโน้ม ทางขึ้น ดังภาพ


ดังนั้น ในเบื้องต้นต้องติดตามว่า การปรับตัวลดลงของหุ้นทางฝั่งยุโรป (โดยเฉพาะจาก อิตาลี และ สเปน) จะส่งผลต่อทางเอเชียมากน้อยเพียงใด (ระดับการ Panic) หากประเทศใด ดัชนีปรับตัวลดลงหลุดกรอบแนวโน้มที่วางไว้ เพื่อความปลอดภัย เราจะต้องลดพอร์ตการลงทุนลงมาด้วย





สำหรับ ภาพ SETรอบนี้ ดัชนีลดลงจากจุด NEW HIGH 60 จุดแล้วกลับตัวขึ้นเหนือ เส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 1,174 เป็นระดับของเส้นแนวรับของขาขึ้นรอบที่ผ่านมา และขึ้นมาด้วยแรงซื้อที่หนาแน่นในหุ้น BIG CAP ที่สำคัญ โดยมีปัจจัยต่างๆ คือ



ปัจจัยด้านบวก  
- มาตรการลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ บริษัทเพิ่มขึ้น 6-7%  
- นับตั้งแต่ต้นปี ต่างชาติซื้อหุ้นมา 8 หมื่นล้านบาท และยังไม่ขายออกมา ซึ่งการเข้ามาของเงินต่างชาติรอบนี้เริ่มจาก Long TFEX ก่อน แล้วตามด้วยการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะทำกำไร TFEX ออกไปหมดแล้ว แต่ทว่าเงินที่จมอยู่ 8 หมื่นกว่าล้านก้อนนี้ ไม่น่าที่จะออกได้ง่ายและเร็ว จึงมองว่ามีโอกาสที่ต่างชาติจะต้องลากราคาหุ้นต่อได้อีก
- การปลดล๊อค นำเข้าไก่ ของกลุ่ม อียู และ ญี่ปุ่น หนุนกลุ่มส่งออกใน Q2.55 และ เป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า
- เงินบาท SIDE WAY ที่ระดับ 30.80  ยังไม่สามารถทะลุกรอบ 31.00 บาท ออกไปได้ แสดงว่า เงินต่างชาติยังไม่ออกไปไหน
- กลุ่ม BANK เข้าช่วงประกาศงบ Q1.55 ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีมาก จาก Consensus ที่คาดการเติบโตของปีนี้ไ้ว้สำหรับกลุ่ม BANK 20% นำร่องโดย KBANK ประกาศงบเร็วกว่าที่คาด ไปแล้วเมื่อเย็นวาน เติบโต 47%โดย เฉพาะในเดือน เมษายน ต่างชาติ เข้าซื้อหุ้น KBANK มากที่สุดในกลุ่มธนาคาร ประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท หรือจำนวน 14 ล้านหุ้น
- ราคาน้ำมัน กลับมายืนแถวบริเวณ 103 เหรียญ แต่หากราคาหลุดบริเวณนี้ แล้วลงไปต่ำกว่า 100 เหรียญ จากปัจจัยที่จะหนุนกลุ่มพลังงาน โดย Q1/55 เตรียมรับข่าวงบเด่น กำไร สต๊อคน้ำมันหนุน ใน Q2/55 กำไรส่วนนี้จะหายไป ซึ่งจากปัจจัยอิหร่าน ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาเล่นขาขึ้นได้ หากราคายืนเหนือ 103 เหรียญ

ปัจจัยด้านลบ
- ในช่วงนี้เหมือนจะหาไม่เจอ เพราะเงินไหลเข้า ข่าวดีท่วมตลาด ดังนั้น ปัจจัยลบต้องติดตามดัชนีทางยุโรปในประเทศ สเปน และ อิตาลี ที่ปรับตัวลงหนักติดต่อกันหลายวัน ว่าจะทำให้เกิด Panic Sell หรือไม่


สรุป จาก การวางกลยุทธ์ SET หาก SET กลับไปยืนบริเวณ 1,170 ได้ ก็ต้องเล่น SET ทางขึ้น โดยหุ้น BIG CAP ที่น่าสนใจ สำหรับรอบสั้นๆ นี้คือ DTAC KTB 
หุ้นเล็กรองลงมา JAS

ส่วน TFEX เล่น Long เป็นหลัก ช่วงราคา 825 - 830 จุด

ขาซิ่ง เลือกลูก C DTAC KTB หาจังหวะเล่นได้


สำหรับหุ้นลงทุนที่ยังสนใจ  TISCO TIPCO BCP ROJNA 
แต่บางตัวขึ้นมามากแล้ว อาจจะเลือกทางทยอยขายแล้วรอรับใหม่ คือ MAJOR  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น